การเจาะผนังปูนเนี่ย ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่ถ้าลงมือจริง ๆ แล้ว หลายคนต้องเจอกับปัญหาจุกอก ทั้งเจาะไม่เข้า รูไม่ตรงแนว ผนังแตกร้าว หรือหนักกว่านั้นคือเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ซึ่งปัญหาเหล่านี้มันบั่นทอนความสุขในการตกแต่งบ้านของเราไปเยอะเลยครับ ในฐานะที่ผมคลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานาน เห็นปัญหาเหล่านี้วนเวียนอยู่ตลอด ก็อดไม่ได้ที่จะมาถ่ายทอดวิชา แชร์ประสบการณ์ที่สั่งสมมา เพื่อให้พี่น้องที่กำลังคิดจะเจาะผนังปูนด้วยตัวเอง ได้ทำงานอย่างมืออาชีพ ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจจนเพื่อนบ้านต้องทัก
เรื่องแรกที่สำคัญสุด ๆ เหมือนกับการเลือกอาวุธให้เหมาะกับสมรภูมิรบก็คือ การเลือกดอกสว่านให้ตรงกับประเภทของปูนและลักษณะงาน พี่น้องรู้ไหมครับว่าดอกสว่านแต่ละชนิดถูกออกแบบมาให้จัดการกับวัสดุที่แตกต่างกัน ถ้าเราเลือกใช้ดอกสว่านไม่ถูกต้อง นอกจากจะเจาะไม่เข้าแล้ว ยังอาจทำให้ดอกสว่านเสียหาย หรือผนังปูนเกิดความเสียหายได้อีกด้วย
สำหรับผนังปูนทั่วไป หรือปูนก่ออิฐมอญที่เราเจอกันบ่อย ๆ ดอกสว่านโรตารี่คาร์ไบด์ (Rotary Carbide Drill Bit) คือพระเอกของเราครับ ดอกสว่านชนิดนี้จะมีหัวที่ทำจากทังสเตนคาร์ไบด์ ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ สามารถเจาะทะลุเนื้อปูนได้อย่างง่ายดาย สังเกตง่าย ๆ ที่ปลายดอกสว่านจะมีลักษณะคล้ายใบมีดเล็ก ๆ ติดอยู่
แต่ถ้าเป็นผนังปูนที่แข็งแรงมาก ๆ เช่น ปูนคอนกรีตเสริมเหล็ก หรือผนังที่ผ่านการฉาบผิวแข็งพิเศษ การใช้ดอกสว่านโรตารี่ธรรมดาอาจจะไม่ไหว ต้องขยับขึ้นมาใช้ ดอกสว่านเจาะคอนกรีต (Concrete Drill Bit) ที่มีหัวคาร์ไบด์ขนาดใหญ่ขึ้นและมีองศาในการตัดที่เหมาะสมกับการเจาะวัสดุแข็ง ๆ โดยเฉพาะ
นอกจากประเภทของปูนแล้ว ขนาดของรูเจาะที่เราต้องการก็เป็นตัวกำหนดขนาดของดอกสว่านที่เราต้องใช้ด้วยนะครับ วัดขนาดของพุกที่เราจะใช้ หรือขนาดของสกรูที่เราต้องการฝัง แล้วเลือกดอกสว่านที่มีขนาดเท่ากัน หรือเล็กกว่าเล็กน้อย เพื่อให้พุกหรือสกรูยึดเกาะได้อย่างแน่นหนา ไม่หลวมคลอน
เมื่อเราได้ดอกสว่านที่เหมาะสมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เครื่องมือเจาะปูนไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ เปรียบเสมือนขุนพลคู่ใจที่จะช่วยให้งานเจาะของเราสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เครื่องเจาะปูนไฟฟ้าในท้องตลาดมีให้เลือกมากมายหลายแบบ หลายราคา แต่การเลือกเครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานของเราจริง ๆ จะช่วยประหยัดทั้งเวลาและแรง แถมยังช่วยให้ได้รูเจาะที่สวยงามและปลอดภัยอีกด้วย
หลัก ๆ แล้ว เครื่องเจาะปูนไฟฟ้าที่เรานิยมใช้กันจะมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
ในการเลือกซื้อเครื่องเจาะปูนไฟฟ้า นอกจากประเภทของเครื่องแล้ว สิ่งที่เราต้องพิจารณาเพิ่มเติมก็คือ กำลังไฟของเครื่อง (Wattage) เครื่องที่มีกำลังไฟสูงกว่า จะสามารถเจาะวัสดุที่แข็งกว่าได้ดีกว่า และทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดความร้อนสูงจนเกินไป นอกจากนี้ ความเร็วรอบในการหมุน (RPM) และ อัตราการกระแทก (BPM - Blows Per Minute) ก็เป็นอีกสองค่าที่เราควรนำมาพิจารณาประกอบกัน เพราะค่าเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการเจาะของเรา
อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomics) ลองจับถือเครื่องดูว่าถนัดมือหรือไม่ น้ำหนักของเครื่องเหมาะสมกับการใช้งานของเราหรือเปล่า เพราะถ้าเราต้องทำงานเจาะเป็นเวลานาน ๆ เครื่องมือที่ไม่ถนัดมืออาจทำให้เกิดอาการเมื่อยล้า และอาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้
เมื่อเรามีทั้งดอกสว่านและเครื่องมือที่พร้อมแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ เทคนิคการเจาะที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เราได้รูเจาะที่สวยงาม ตรงแนว และไม่ทำให้ผนังปูนแตกร้าวเสียหาย นี่คือเคล็ดลับที่ผมสั่งสมมาจากการทำงานจริง:
เรื่องสุดท้ายแต่สำคัญที่สุดคือ ความปลอดภัยในการทำงาน การเจาะผนังปูนอาจมีอันตรายเกิดขึ้นได้ หากเราประมาทหรือไม่ระมัดระวัง ดังนั้น ก่อนที่จะลงมือเจาะทุกครั้ง เราต้องให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรกเสมอ
การเจาะผนังปูนให้ได้รูสวยงาม ปลอดภัย และทนทาน ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่เรามีความเข้าใจในเรื่องของเครื่องมือ การเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมกับงาน และมีเทคนิคการเจาะที่ถูกต้อง พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการทำงาน แค่นี้เราก็สามารถลงมือเจาะผนังปูนด้วยตัวเองได้อย่างมั่นใจ ได้ผลงานที่น่าภาคภูมิใจ เหมือนมีช่างมืออาชีพมาทำให้ถึงบ้าน
ผมเชื่อว่าข้อมูลที่ผมได้แบ่งปันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องที่กำลังมองหา เครื่องมือเจาะผนังปูนคุณภาพสูง ที่จะช่วยให้งาน DIY ของท่านเป็นเรื่องง่าย สะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การลงทุนกับเครื่องมือที่ดี มีคุณภาพ คือการลงทุนกับผลงานที่ดี และความปลอดภัยของตัวเราเองในระยะยาวครับ