หน้าแรก
- - - - -SHOP- - - - -
WishList
ถึงเวลาอัปเกรดเครื่องมือช่างคู่ใจของคุณแล้ว!
บทความ
เกี่ยวกับเรา
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ >>
สว่านเจาะกระเบื้อง: เลือกหัวเจาะแบบไหนดี?
สว่านเจาะกระเบื้อง: เลือกหัวเจาะแบบไหนดี?

สว่านเจาะกระเบื้อง: เลือกหัวเจาะแบบไหนดี?

 


 

สวัสดีครับพี่น้องชาวช่างและคนรักงาน DIY ทุกท่าน! วันนี้ผมในฐานะช่างคนนึงที่คลุกคลีกับงานเจาะกระเบื้องมานักต่อนัก ขอมานั่งคุยเปิดอกกันเรื่อง "สว่านเจาะกระเบื้อง" และที่สำคัญคือ "หัวเจาะ" ที่เปรียบเสมือนคมดาบของนักรบในงานนี้เลยทีเดียว หลายคนคงเคยเจอประสบการณ์เจาะกระเบื้องแล้วกระเบื้องร้าวบ้าง เจาะไม่เข้าบ้าง หรือหัวเจาะสึกหรออย่างรวดเร็วบ้างใช่ไหมครับ? นั่นแหละครับพี่น้อง! ปัญหาเหล่านี้มักจะเกิดจากการเลือกหัวเจาะที่ไม่เหมาะสมกับประเภทกระเบื้องและลักษณะงานที่เรากำลังจะทำนี่แหละครับ วันนี้เราจะมาล้วงลึกถึงเรื่องนี้กันแบบหมดเปลือก ให้พี่น้องเลือกหัวเจาะได้ถูกใจ เหมือนมีเพื่อนช่างข้างๆ มาคอยแนะนำกันเลยครับ

 

ความจริงแล้วงานเจาะกระเบื้องเนี่ย มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดหรอกครับ ถ้าเราเข้าใจหลักการและเลือกใช้เครื่องมือที่ถูกประเภท หัวใจสำคัญก็คือ "หัวเจาะ" ที่เราจะใช้เจาะนี่แหละครับ หัวเจาะแต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน มีวัสดุที่ใช้ทำ ความคม และคุณสมบัติพิเศษที่ไม่เหมือนกันเลย ดังนั้นการจะเลือกหัวเจาะให้เหมาะสมกับการใช้งานและประเภทกระเบื้อง จึงเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ เลยครับ

 

 

ประเภทกระเบื้องแต่ละชนิด มีผลต่อการเลือกหัวเจาะกระเบื้องอย่างไร?

 

มาเริ่มกันที่เรื่องของ "กระเบื้อง" กันก่อนครับพี่น้อง เพราะกระเบื้องแต่ละชนิดเนี่ย มันมี "ความแข็ง" และ "เนื้อสัมผัส" ที่แตกต่างกันลิบลับเลยครับ และนี่แหละคือตัวแปรสำคัญที่จะบอกเราว่าควรใช้หัวเจาะแบบไหนถึงจะเหมาะสมที่สุด

 

  • กระเบื้องเซรามิก (Ceramic Tiles): เป็นกระเบื้องที่เราพบเห็นได้บ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ ไม่ว่าจะในห้องน้ำ ห้องครัว หรือแม้แต่พื้นบ้าน เนื้อกระเบื้องชนิดนี้มักจะมีความพรุนอยู่บ้าง และไม่แข็งเท่ากระเบื้องชนิดอื่นๆ ดังนั้นการเจาะกระเบื้องเซรามิกจึงถือว่าทำได้ค่อนข้างง่ายกว่า ถ้าเทียบกับกระเบื้องชนิดอื่นๆ ครับ สำหรับกระเบื้องประเภทนี้ หัวเจาะคาร์ไบด์คุณภาพดีก็สามารถทำงานได้ดีเยี่ยมแล้วครับ
  • กระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain Tiles): กระเบื้องพอร์ซเลนได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยความสวยงามและความทนทานที่เหนือกว่ากระเบื้องเซรามิก แต่แลกมาด้วยความแข็งแกร่งที่มากขึ้นและเนื้อกระเบื้องที่หนาแน่นกว่ามากครับ การเจาะกระเบื้องพอร์ซเลนจึงต้องใช้หัวเจาะที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ เช่น หัวเจาะเพชร เท่านั้นครับ เพราะหัวเจาะธรรมดาอาจจะเอาไม่ค่อยอยู่ หรือสึกหรอเร็วเกินไป
  • กระเบื้องแกรนิตโต้ (Granitto Tiles): จริงๆ แล้วกระเบื้องแกรนิตโต้ก็คือกระเบื้องพอร์ซเลนชนิดหนึ่งนั่นแหละครับพี่น้อง เพียงแต่ชื่อแกรนิตโต้เป็นชื่อทางการค้าที่คุ้นหูคนไทยมากกว่า ด้วยคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับหินแกรนิตธรรมชาติ ทั้งความแข็งและความทนทาน การเจาะกระเบื้องแกรนิตโต้จึงต้องใช้หัวเจาะที่ออกแบบมาสำหรับวัสดุที่แข็งเป็นพิเศษเช่นกันครับ เหมือนที่เราใช้กับพอร์ซเลนเลย คือต้องเป็นหัวเจาะเพชรเท่านั้น
  • กระเบื้องแก้ว (Glass Tiles): กระเบื้องแก้วให้ความสวยงามที่แตกต่างออกไป แต่ก็มีความเปราะบางสูงมากครับ การเจาะกระเบื้องแก้วจึงต้องทำด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ และใช้หัวเจาะที่ออกแบบมาสำหรับเจาะแก้วโดยเฉพาะ ซึ่งมักจะเป็น หัวเจาะเพชรปลายแหลม หรือ หัวเจาะแก้ว ที่มีลักษณะพิเศษ เพื่อป้องกันการแตกหักของกระเบื้อง
  • หินธรรมชาติ (Natural Stone - Marble, Granite, Travertine): แม้จะไม่ใช่กระเบื้องซะทีเดียว แต่ก็เป็นวัสดุที่มักจะถูกนำมาใช้ปูพื้นหรือผนังเช่นกันครับ หินธรรมชาติแต่ละชนิดก็มีความแข็งที่แตกต่างกันไป แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นวัสดุที่แข็งมากครับ การเจาะหินธรรมชาติจึงจำเป็นต้องใช้ หัวเจาะเพชร ที่มีคุณภาพสูงและออกแบบมาเพื่อการเจาะหินโดยเฉพาะครับ

 

สรุปง่ายๆ ก็คือ ยิ่งกระเบื้องมีความแข็งมากเท่าไหร่ หัวเจาะที่เราเลือกใช้ก็จะต้องยิ่งมีความแข็งแกร่งและคมมากยิ่งขึ้นเท่านั้นครับ

 

 

หัวเจาะกระเบื้องแบบไหนดี หัวเจาะคาร์ไบด์ใช้ดีไหม?

 

มาถึงพระเอกของงานนี้กันบ้างครับ "หัวเจาะ" มันมีหลายประเภทเหลือเกิน จนบางทีก็งงว่าจะเลือกแบบไหนดีใช่ไหมครับ? มาดูกันครับว่าแต่ละประเภทมันแตกต่างกันยังไง

 

  • หัวเจาะคาร์ไบด์ (Carbide Drill Bits):
    • ลักษณะ: เป็นหัวเจาะที่ปลายดอกจะทำจากวัสดุคาร์ไบด์ (ทังสเตนคาร์ไบด์) ซึ่งเป็นวัสดุที่แข็งและทนทาน มีลักษณะคล้ายๆ กับหัวเจาะปูนที่เราคุ้นเคยกันนั่นแหละครับ
    • การใช้งาน: เหมาะสำหรับการเจาะกระเบื้องที่มีความแข็งปานกลางถึงอ่อน เช่น กระเบื้องเซรามิก ทั่วไป หรืออิฐมวลเบา งานที่ไม่ต้องการความแม่นยำสูงมากนัก
    • ข้อดี: ราคาไม่แพง หาซื้อง่าย ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับงาน DIY เล็กๆ น้อยๆ หรือการเจาะที่ไม่บ่อยนัก
    • ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับกระเบื้องที่แข็งมากๆ เช่น พอร์ซเลน แกรนิตโต้ หรือหินธรรมชาติ เพราะจะทำให้หัวเจาะสึกหรอเร็วมาก เจาะไม่ค่อยเข้า หรืออาจทำให้กระเบื้องร้าวได้
    • เคล็ดลับช่าง: ถ้าจะใช้หัวเจาะคาร์ไบด์กับกระเบื้องเซรามิก ควรใช้สว่านที่ปรับรอบได้ช้าๆ และออกแรงกดสม่ำเสมอ พยายามหล่อเลี้ยงด้วยน้ำตลอดเวลา เพื่อลดความร้อนและยืดอายุการใช้งานของหัวเจาะครับ

 

 

หัวเจาะกระเบื้องเพชร ใช้ดีไหม เหมาะกับกระเบื้องแข็งๆ จริงไหม?

 

มาถึงหัวเจาะที่เรียกได้ว่าเป็น "หัวใจ" ของงานเจาะกระเบื้องแข็งๆ เลยครับพี่น้อง นั่นก็คือ หัวเจาะเพชร (Diamond Drill Bits) ครับ

 

  • ลักษณะ: หัวเจาะประเภทนี้จะมีผงเพชรสังเคราะห์เคลือบอยู่ที่คมตัด หรือเป็นเพชรฝังในเนื้อโลหะเลยครับ เพชรเป็นวัสดุที่แข็งที่สุดในโลก จึงทำให้หัวเจาะประเภทนี้มีความทนทานและประสิทธิภาพในการเจาะสูงมากครับ หัวเจาะเพชรมีหลายรูปแบบ ทั้งแบบกระบอก (Core Drill) สำหรับเจาะรูขนาดใหญ่ หรือแบบปลายแหลม (Solid Diamond Tip) สำหรับเจาะรูขนาดเล็ก
  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับการเจาะกระเบื้องทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระเบื้องพอร์ซเลน กระเบื้องแกรนิตโต้ หินธรรมชาติ กระเบื้องแก้ว และวัสดุที่แข็งมากๆ ครับ
  • ข้อดี: เจาะได้แม่นยำ รวดเร็ว และสะอาด ทำให้งานออกมาดูเป็นมืออาชีพ ลดความเสี่ยงที่กระเบื้องจะร้าวหรือแตกหัก หัวเจาะมีความทนทานสูง ใช้งานได้นานกว่าหัวเจาะคาร์ไบด์มาก ถ้าใช้งานอย่างถูกวิธี
  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่า หัวเจาะคาร์ไบด์มากครับ แต่ก็แลกมาด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
  • เคล็ดลับช่าง: การใช้หัวเจาะเพชรที่ถูกวิธี จะต้องใช้ ระบบหล่อเย็นด้วยน้ำ (Water Cooling System) เสมอครับ! ไม่ว่าจะเป็นการฉีดน้ำใส่ขณะเจาะ หรือใช้หัวเจาะแบบมีกระบอกน้ำในตัว การใช้น้ำจะช่วยลดความร้อนที่เกิดจากการเสียดสี ช่วยชะล้างเศษวัสดุ และยืดอายุการใช้งานของหัวเจาะเพชรได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่ใช้น้ำ หัวเจาะจะร้อนจัดจนเพชรหลุดร่อน ทำให้หัวเจาะพังเร็วมากๆ ครับ นอกจากนี้ ควรเจาะด้วยความเร็วรอบที่เหมาะสม ไม่เร็วเกินไป และออกแรงกดสม่ำเสมอ ไม่ต้องกดแรงเกินไปครับ

 

 

หัวเจาะกระเบื้องรูใหญ่ เจาะง่ายด้วยหัวเจาะกระบอกเพชร

 

บางครั้งเราก็จำเป็นต้องเจาะรูกระเบื้องที่มีขนาดใหญ่หน่อยใช่ไหมครับพี่น้อง? เช่น ต้องการเจาะรูก๊อกน้ำ เจาะรูท่อระบายน้ำ หรือเจาะรูเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับงานเจาะรูขนาดใหญ่เนี่ย หัวเจาะกระบอกเพชร (Diamond Core Drill Bits) คือคำตอบสุดท้ายเลยครับ

 

  • ลักษณะ: เป็นหัวเจาะที่มีลักษณะเป็นกระบอกกลวง ด้านปลายของกระบอกจะถูกเคลือบด้วยผงเพชรสังเคราะห์ เมื่อใช้งาน สว่านจะหมุนกระบอกเจาะลงไปบนผิวหน้ากระเบื้อง ทำให้เกิดเป็นรูกลมๆ ขึ้นมา
  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับการเจาะรูขนาดใหญ่บนกระเบื้องทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเบื้องแข็งๆ อย่างพอร์ซเลน แกรนิตโต้ หินธรรมชาติ
  • ข้อดี: เจาะรูขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และสะอาด ไม่ทำให้กระเบื้องร้าวหรือแตก เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเรียบร้อยสูง
  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าหัวเจาะชนิดอื่น และต้องใช้น้ำในการหล่อเย็นขณะเจาะเสมอ
  • เคล็ดลับช่าง: ในการใช้หัวเจาะกระบอกเพชร ควรเริ่มเจาะโดยทำมุมเอียงเล็กน้อยประมาณ 45 องศา เพื่อให้หัวเจาะเริ่มกินเนื้อกระเบื้อง จากนั้นค่อยๆ ปรับให้ตั้งฉากกับพื้นผิวเมื่อหัวเจาะเริ่มกินเนื้อแล้ว และต้องมั่นใจว่ามีน้ำหล่อเลี้ยงตลอดเวลาครับ

 

 

เจาะกระเบื้อง ไม่ให้ร้าว มีเทคนิคอะไรบ้าง?

 

นอกจากจะเลือกหัวเจาะที่เหมาะสมแล้ว การมี "เทคนิค" ในการเจาะก็สำคัญไม่แพ้กันเลยครับพี่น้อง เพื่อให้งานออกมาเนี๊ยบ กระเบื้องไม่ร้าว ไม่แตก เสียของเปล่าๆ

 

  1. ใช้สว่านที่ปรับความเร็วรอบได้: นี่คือสิ่งสำคัญเลยครับพี่น้อง! การเจาะกระเบื้องส่วนใหญ่ เราจะใช้ความเร็วรอบที่ "ต่ำถึงปานกลาง" ครับ โดยเฉพาะกระเบื้องแข็งๆ การเจาะด้วยความเร็วรอบที่สูงเกินไปจะทำให้เกิดความร้อนสูงมาก ทำให้หัวเจาะสึกหรอเร็ว และเสี่ยงที่กระเบื้องจะแตก
  2. หล่อเลี้ยงด้วยน้ำเสมอ: ย้ำอีกครั้งครับ! ไม่ว่าจะเป็นหัวเจาะเพชร หรือแม้แต่หัวเจาะคาร์ไบด์ การใช้น้ำในการหล่อเลี้ยงขณะเจาะจะช่วยลดความร้อน ชะล้างเศษผงกระเบื้อง และยืดอายุการใช้งานของหัวเจาะได้อย่างมหาศาลครับ ใช้ขวดสเปรย์ฉีดน้ำเป็นระยะๆ หรือหาอุปกรณ์หล่อเย็นสำหรับสว่านมาใช้ก็ช่วยได้เยอะเลยครับ
  3. ออกแรงกดอย่างสม่ำเสมอ ไม่ต้องกดแรงเกินไป: การออกแรงกดมากเกินไปไม่ได้แปลว่าจะเจาะเร็วขึ้นนะครับพี่น้อง กลับกัน มันอาจจะทำให้หัวเจาะสึกหรอเร็วขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงที่กระเบื้องจะแตกหรือร้าว ให้ค่อยๆ ออกแรงกดอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยให้หัวเจาะได้ทำงานของมันครับ
  4. ทำเครื่องหมายจุดเจาะให้ชัดเจน: ใช้ปากกาเคมีหรือดินสอทำเครื่องหมายจุดที่จะเจาะให้ชัดเจน เพื่อความแม่นยำในการเจาะ และป้องกันการเจาะผิดพลาด
  5. ใช้เทปกาวแปะบริเวณที่เจาะ: ก่อนจะลงมือเจาะ ให้เอาเทปกาวเนื้อหนาๆ เช่น เทปกาวหนังไก่ หรือเทปกาวผ้า มาแปะทับบริเวณที่จะเจาะสักสองสามชั้นครับ เทคนิคนี้จะช่วยป้องกันหัวเจาะลื่นไถลไปมาในตอนเริ่มต้น และช่วยลดการแตกของผิวหน้ากระเบื้องได้ในระดับหนึ่งครับ
  6. เจาะนำ (Pilot Hole) สำหรับกระเบื้องที่แข็งมาก: สำหรับกระเบื้องที่แข็งมากๆ อย่างแกรนิตโต้หรือพอร์ซเลน บางครั้งเราอาจจะเจาะรูขนาดเล็กนำไปก่อนด้วยหัวเจาะที่มีขนาดเล็กกว่า เพื่อสร้างจุดเริ่มต้นให้หัวเจาะหลัก จากนั้นค่อยใช้หัวเจาะขนาดที่ต้องการเจาะตามลงไป วิธีนี้จะช่วยให้เจาะได้ง่ายขึ้นและลดความเสี่ยงในการแตกของกระเบื้อง
  7. ใส่แว่นตานิรภัยและถุงมือ: ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอครับพี่น้อง เศษกระเบื้องที่กระเด็นออกมา หรือผงฝุ่นจากการเจาะอาจเข้าตาได้ง่ายๆ ดังนั้นอย่าลืมใส่แว่นตานิรภัย และสวมถุงมือเพื่อป้องกันมือของเราด้วยนะครับ

 

 

หัวเจาะกระเบื้องยี่ห้อไหนดี เลือกยังไงให้คุ้มค่า?

 

เรื่องยี่ห้อนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่หลายคนถามถึงบ่อยครับพี่น้อง ความจริงแล้วมันไม่ได้มีกฎตายตัวหรอกครับว่ายี่ห้อไหนดีที่สุด เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป แต่สิ่งสำคัญคือการเลือกจาก "คุณภาพ" และ "ความเหมาะสมกับการใช้งาน" ของเราครับ

 

  • คุณภาพของวัสดุ: เลือกหัวเจาะที่ระบุวัสดุที่ใช้ทำอย่างชัดเจน เช่น "Diamond" หรือ "Carbide" และถ้าเป็นไปได้ ให้เลือกยี่ห้อที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงการช่างครับ เพราะยี่ห้อพวกนี้มักจะใช้วัสดุที่มีคุณภาพดีกว่า และมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน
  • งบประมาณ: แน่นอนว่าหัวเจาะเพชรจะมีราคาสูงกว่าหัวเจาะคาร์ไบด์มากครับ แต่ถ้าคุณมีงานเจาะกระเบื้องแข็งๆ บ่อยๆ การลงทุนกับหัวเจาะเพชรดีๆ สักชุดจะคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่าครับ เพราะมันจะทนทานกว่า ทำงานได้เร็วกว่า และลดความเสียหายของกระเบื้องได้มากกว่า
  • รีวิวจากผู้ใช้งานจริง: ลองศึกษาข้อมูลจากรีวิวของผู้ใช้งานจริงบนอินเทอร์เน็ต หรือสอบถามจากเพื่อนช่างด้วยกันก็ได้ครับ ประสบการณ์ตรงจากคนใช้งานจริงมักจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ที่สุด
  • การรับประกัน: บางยี่ห้ออาจมีรับประกันสินค้า หรือบริการหลังการขายที่ดี ลองพิจารณาเรื่องนี้ประกอบการตัดสินใจด้วยครับ

 

 

ข้อควรรู้เพิ่มเติม เมื่อเลือกซื้อหัวเจาะกระเบื้อง

 

  • ขนาดของหัวเจาะ: เลือกขนาดของหัวเจาะให้เหมาะสมกับขนาดของรูที่เราต้องการเจาะนะครับ อย่าใช้หัวเจาะขนาดเล็กไปเจาะรูใหญ่ หรือหัวเจาะขนาดใหญ่ไปเจาะรูเล็กเกินไป เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการเจาะลดลง และอาจทำให้หัวเจาะเสียหายได้
  • ประเภทของก้านหัวเจาะ: สังเกตประเภทของก้านหัวเจาะด้วยนะครับ ว่าเป็นแบบก้านกลม ก้านหกเหลี่ยม หรือ SDS Plus เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้กับสว่านที่เรามีอยู่ได้
  • ซื้อเป็นชุดหรือแยกชิ้น: ถ้าคุณมีงานเจาะหลายขนาด การซื้อหัวเจาะเป็นชุดอาจจะคุ้มค่ากว่าครับ แต่ถ้าต้องการแค่หัวเจาะขนาดใดขนาดหนึ่ง ก็ซื้อแยกชิ้นได้เลย
  • ศึกษาคู่มือการใช้งาน: หัวเจาะแต่ละชนิด แต่ละยี่ห้อ อาจมีข้อแนะนำในการใช้งานที่แตกต่างกันไปเล็กน้อย ควรศึกษาคู่มือการใช้งานที่มาพร้อมกับหัวเจาะ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด

 


 

เป็นไงบ้างครับพี่น้อง? พอจะเห็นภาพรวมของการเลือกหัวเจาะกระเบื้องกันแล้วใช่ไหมครับ? ผมหวังว่าข้อมูลที่ผมเอามาเล่าให้ฟังในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องทุกท่านนะครับ ไม่ว่าจะเป็นช่างมืออาชีพ หรือคนที่รักงาน DIY การเลือกหัวเจาะที่เหมาะสมกับงานที่เราจะทำ จะช่วยให้งานออกมาดี มีคุณภาพ และประหยัดเวลาได้อย่างมหาศาลครับ

 

จำไว้นะครับว่า "เครื่องมือดี มีชัยไปกว่าครึ่ง" และ "หัวเจาะที่ดี เปรียบเสมือนคมดาบที่คมกริบของนักรบ" ถ้าเราเลือกใช้เครื่องมือที่ถูกประเภท และรู้วิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง งานเจาะกระเบื้องก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปครับ

 

ถ้าใครมีข้อสงสัย หรืออยากให้ผมเล่าเรื่องอะไรอีก ก็คอมเมนต์บอกกันมาได้เลยนะครับ ยินดีให้คำแนะนำเสมอครับ! ขอให้สนุกกับงานช่างนะครับทุกท่าน!

 

TOP 0 สินค้ายอดนิยม ปี 2025
ดูสินค้าทั้งหมด
สินค้าปี2025 ที่น่าสนใจ
ดูทั้งหมด
wayoza.com