เอาล่ะครับพี่ๆ น้องๆ ที่กำลังมองหาเครื่องมือดีๆ สักชิ้นติดบ้าน วันนี้ผมจะมาไขข้อข้องใจว่าทำไม สว่านเจาะไฟฟ้า เนี่ย มันถึงเป็นเครื่องมือที่ จำเป็นโคตรๆ ที่ทุกบ้านควรจะมีติดไว้ ไม่ใช่แค่สำหรับช่างมืออาชีพเท่านั้นนะ แต่คนทั่วไปอย่างเราๆ ท่านๆ ก็ควรมีมันไว้ข้างกาย เชื่อผมเถอะว่ามันจะเปลี่ยนมุมมองที่คุณมีต่อการซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านไปเลย
หลายคนอาจจะคิดว่า “โอ๊ย สว่านไฟฟ้ามันจะไปจำเป็นอะไรมากมาย? นานๆ ทีจะใช้” ผมบอกเลยว่านั่นเป็นความเข้าใจผิดอย่างแรง! ลองคิดดูสิครับว่ากี่ครั้งแล้วที่คุณอยากจะแขวนกรอบรูปสวยๆ สักอันบนผนัง แต่ต้องมานั่งตอกตะปูจนผนังเป็นรอย หรือต้องเสียเวลาไปจ้างช่างมาแค่เจาะรูเล็กๆ แค่ไม่กี่รู? เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา แถมบางทีรอยเจาะก็ไม่สวยอีก
เจ้าสว่านไฟฟ้าเนี่ย มันไม่ได้มีหน้าที่แค่เจาะรูอย่างเดียวนะพี่ มันเป็นเครื่องมือสารพัดประโยชน์ที่ช่วยให้งานช่างเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านกลายเป็นเรื่อง หมูๆ ไปเลย ไม่ว่าจะเป็นการประกอบเฟอร์นิเจอร์ ซ่อมแซมข้าวของเครื่องใช้ หรือแม้แต่ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ มันทำได้หมด! ที่สำคัญคือมันช่วยประหยัดแรง ประหยัดเวลา และที่สำคัญที่สุดคือ ประหยัดเงินในกระเป๋า ของเราได้เยอะมากๆ เลยนะ
มาพูดถึงเรื่องที่คนส่วนใหญ่ใช้สว่านกันบ่อยที่สุดก็คือ การเจาะผนัง นี่แหละครับพี่ ลองนึกภาพดูนะ วันหนึ่งคุณเพิ่งได้รูปภาพสวยๆ มาใหม่ อยากจะแขวนโชว์ในห้องนั่งเล่นให้มันดูดีมีชาติตระกูล แต่ผนังบ้านมันแข็งโป๊ก ตอกตะปูยังไงก็ไม่เข้า แถมเสี่ยงมือเจ็บอีกต่างหาก หรือบางทีก็อยากจะติดชั้นวางของเล็กๆ น้อยๆ ไว้เก็บของให้เป็นระเบียบ แต่ก็ติดตรงที่ไม่มีเครื่องมือเจาะผนังดีๆ
นี่แหละครับคือจังหวะที่ สว่านเจาะไฟฟ้า จะเข้ามาเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตคุณ! แค่เลือกดอกสว่านให้ถูกขนาด ใส่เข้าไปในสว่าน แล้วก็กดปุ่ม เจาะ! แป๊บเดียวก็ได้รูสวยๆ เนียนๆ แล้ว คุณสามารถเจาะผนังปูน ผนังอิฐ หรือแม้แต่ผนังไม้ได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องออกแรงเยอะ ไม่ต้องกลัวพลาด ที่สำคัญคือมันได้รูที่ แม่นยำและสะอาด ทำให้งานติดตั้งของคุณดูเป็นมืออาชีพขึ้นมาทันที
จากนั้นคุณก็แค่ใส่พุกและสกรูเข้าไป แค่นี้ก็สามารถแขวนรูปภาพสวยๆ ติดชั้นวางของเก๋ๆ หรือแม้แต่ติดตั้งม่านบังแดดได้ด้วยตัวเองแล้วครับพี่ ไม่ต้องง้อช่าง ไม่ต้องรอคิว และภูมิใจได้เลยว่านี่คืองานฝีมือของตัวเองล้วนๆ บอกเลยว่าความรู้สึกที่ได้เห็นผลงานตัวเองมันฟินกว่าเยอะ!
เดี๋ยวนี้เทรนด์ เฟอร์นิเจอร์ DIY มาแรงมากๆ เลยใช่ไหมครับพี่? ไม่ว่าจะเป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน ชั้นหนังสือ หรือแม้แต่เตียงนอน ก็มีแบบที่ให้เราซื้อมาประกอบเองได้เพียบเลย ข้อดีคือมันถูกกว่า แล้วก็ได้ความภูมิใจที่ได้ลงมือทำเอง แต่ข้อเสียคือบางทีการขันสกรูเยอะๆ ด้วยมือเปล่าเนี่ย มันโคตรจะเมื่อยเลยครับพี่! ขันไปแป๊บเดียวข้อมือแทบเคล็ด แถมบางทียังขันไม่แน่นพออีก
นี่แหละครับพี่ สว่านเจาะไฟฟ้า ไม่ได้มีดีแค่เจาะนะ แต่หลายรุ่นมันสามารถ ขันสกรู ได้ด้วย! แค่เปลี่ยนหัวสว่านให้เป็นหัวไขควง (ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีแถมมาให้ หรือหาซื้อเพิ่มได้ไม่ยาก) แล้วคุณก็จะสามารถประกอบเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ไม่ต้องออกแรงเยอะ ไม่ต้องกลัวเมื่อย และที่สำคัญคือมันช่วยให้สกรูทุกตัว ขันได้แน่นและปลอดภัย ทำให้เฟอร์นิเจอร์ของคุณแข็งแรงทนทาน ไม่โยกเยกง่ายๆ
ลองคิดดูสิครับว่าการประกอบตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ด้วยไขควงธรรมดาเนี่ย มันต้องใช้เวลาเท่าไหร่? เป็นชั่วโมงๆ เลยใช่ไหมครับ? แต่ถ้ามีสว่านไฟฟ้า คุณจะทุ่นเวลาไปได้เยอะมาก อาจจะเหลือแค่ไม่กี่นาที หรืออย่างมากก็ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นี่แหละครับคือสิ่งที่สว่านไฟฟ้าจะเข้ามาช่วยให้งาน DIY ของคุณกลายเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่เรื่องทรมานอีกต่อไป!
นอกจากการเจาะและการประกอบเฟอร์นิเจอร์แล้ว สว่านเจาะไฟฟ้า ยังเป็นเครื่องมือที่ อเนกประสงค์สุดๆ สำหรับงานซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ ภายในบ้านอีกด้วยครับพี่ ลองนึกภาพดูนะ บางทีประตูรั้วมันโยกเยกเพราะสกรูหลวม หรือหน้าต่างมันปิดไม่สนิทเพราะบานพับหลวม หรือแม้แต่ชั้นวางของที่บ้านมันคลอนแคลนจนน่าเป็นห่วง
งานพวกนี้เนี่ย ถ้าไม่มีสว่านไฟฟ้า บางทีก็ต้องพึ่งไขควงธรรมดา ซึ่งมันอาจจะขันไม่แน่นพอ หรือบางทีสกรูมันก็จมไปในเนื้อไม้จนไขควงธรรมดาเข้าไม่ถึง แต่ถ้ามี สว่านไฟฟ้า คุณจะสามารถจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เปลี่ยนหัวสว่านให้เหมาะสม คุณก็สามารถไขสกรูที่หลวมให้แน่นขึ้นได้ทันที หรือถ้าต้องการเจาะรูใหม่เพื่อยึดให้แข็งแรงกว่าเดิมก็ทำได้สบายๆ
นอกจากนี้ สว่านไฟฟ้ายังสามารถใช้ในการ ขัดเงา หรือ ขัดสนิม ได้ด้วยนะ แค่หาอุปกรณ์เสริมที่เป็นแปรงลวดหรือแผ่นขัดมาต่อเข้ากับสว่าน คุณก็สามารถแปลงสว่านของคุณให้เป็นเครื่องขัดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะช่วยให้งานทำความสะอาดหรือซ่อมแซมพื้นผิวต่างๆ กลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเยอะเลยครับพี่
สมัยนี้อะไรๆ ก็ต้องติดตั้งเองใช่ไหมครับพี่? ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งทีวีจอแบนบนผนัง การติดตั้งราวผ้าม่านสวยๆ การติดตั้งโคมไฟใหม่ๆ หรือแม้แต่การติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัยของบ้าน งานพวกนี้ส่วนใหญ่แล้ว ล้วนต้องใช้การเจาะ ทั้งสิ้นครับ
ถ้าคุณไม่มี สว่านเจาะไฟฟ้า คุณจะทำยังไง? อาจจะต้องเสียเงินจ้างช่างมาทำให้ ซึ่งบางทีก็ต้องรอคิวนาน เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น แต่ถ้าคุณมีสว่านไฟฟ้าเป็นของตัวเอง คุณจะสามารถจัดการงานเหล่านี้ได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย ไม่ต้องรอใคร ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม แค่เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม แล้วก็ลงมือทำได้เลย
นึกภาพดูสิครับว่าการได้ติดตั้งทีวีจอใหญ่บึ้มบนผนังห้องนั่งเล่นด้วยฝีมือตัวเองเนี่ย มันเท่ขนาดไหน? หรือการได้ติดตั้งโคมไฟดีไซน์สวยๆ ที่คุณเลือกมากับมือแล้วเห็นมันส่องสว่างในบ้านของคุณเองเนี่ย มันรู้สึกดีแค่ไหน? ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วย สว่านเจาะไฟฟ้า ครับพี่ มันเป็นมากกว่าแค่เครื่องมือ แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณ สร้างสรรค์ และ ตกแต่ง บ้านของคุณให้เป็นไปตามที่คุณต้องการได้ด้วยตัวเอง
มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะเริ่มสนใจแล้วว่า “เออ! มันน่าจะมีจริงๆ นั่นแหละ แล้วจะเลือกซื้อแบบไหนดีล่ะช่าง?” หลักๆ แล้ว สว่านเจาะไฟฟ้า ก็จะแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ สว่านไร้สาย (Cordless Drill) กับ สว่านมีสาย (Corded Drill) ครับพี่
สว่านไร้สาย เนี่ย ข้อดีคือ พกพาสะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องปลั๊กไฟหรือสายไฟเกะกะ จะไปเจาะตรงไหนก็ได้ ขอแค่แบตเตอรี่เต็มก็พอ เหมาะสำหรับงานที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อยๆ หรืองานที่ไม่มีปลั๊กไฟใกล้ๆ เช่น ไปเจาะนอกบ้าน หรือไปซ่อมแซมอะไรที่มันอยู่ห่างจากแหล่งจ่ายไฟ แต่ข้อเสียคือต้องคอยชาร์จแบตเตอรี่ และกำลังอาจจะไม่เท่าสว่านมีสายในบางรุ่น แต่สำหรับงานในบ้านทั่วไปถือว่าเหลือเฟือเลยครับ
ส่วน สว่านมีสาย เนี่ย ข้อดีคือ กำลังแรง ไม่มีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่หมดกลางคัน เสียบปลั๊กแล้วใช้ได้ยาวๆ เหมาะสำหรับงานหนักๆ ที่ต้องใช้กำลังเยอะๆ หรือใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ เช่น เจาะปูนหนาๆ หรือเจาะโลหะ แต่ข้อเสียคือมีสายไฟเกะกะ ต้องคอยหาปลั๊กไฟ และการเคลื่อนย้ายอาจจะไม่สะดวกเท่าสว่านไร้สาย
สำหรับงานในบ้านทั่วไป ผมแนะนำว่า สว่านไร้สาย เนี่ย ตอบโจทย์ได้ดีมากๆ เลยครับพี่ เพราะงานในบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรมาก กำลังของสว่านไร้สายรุ่นใหม่ๆ ก็แรงพอที่จะเจาะผนังปูนได้สบายๆ แถมยังพกพาสะดวก จะไปเจาะตรงไหนก็ลากไปได้เลย ไม่ต้องหาสายพ่วงให้วุ่นวาย
พอได้ สว่านเจาะไฟฟ้า มาไว้ในครอบครองแล้วเนี่ย เรื่องการดูแลรักษาก็สำคัญนะครับพี่ ไม่ใช่แค่ซื้อมาแล้วใช้ๆ ไปอย่างเดียว การดูแลรักษาที่ดีจะช่วยให้สว่านของเราอยู่กับเราไปนานๆ ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือ ปลอดภัย ในการใช้งานด้วย
หลักๆ เลยก็คือ ทำความสะอาดหลังการใช้งานทุกครั้ง ครับพี่ ใช้ผ้าแห้งเช็ดฝุ่นผงที่ติดอยู่ตามตัวเครื่อง โดยเฉพาะตามช่องระบายอากาศ เพื่อไม่ให้ฝุ่นเข้าไปอุดตันมอเตอร์ แล้วก็ ตรวจสอบสภาพสายไฟ (ถ้าเป็นสว่านมีสาย) หรือแบตเตอรี่ (ถ้าเป็นสว่านไร้สาย) ว่ามีรอยฉีกขาดหรือชำรุดหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องรีบแก้ไขหรือเปลี่ยนใหม่ทันที
ส่วน ดอกสว่าน ก็ต้องดูแลให้ดีนะครับพี่ ถ้าใช้จนทื่อแล้วก็ควรลับคมหรือเปลี่ยนใหม่ เพื่อประสิทธิภาพในการเจาะที่ดี และลดแรงที่ต้องใช้ในการเจาะ ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของสว่านด้วยครับ
ที่สำคัญที่สุดคือ เก็บในที่แห้งและปลอดภัย ครับพี่ ไม่ควรเก็บในที่ชื้นแฉะ หรือในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรงนานๆ เพราะอาจจะทำให้ตัวเครื่องเสียหายได้ และควรเก็บให้พ้นมือเด็กด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัย
เป็นไงบ้างครับพี่? ฟังผมเล่ามาจนถึงตรงนี้ พอจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับว่าทำไม สว่านเจาะไฟฟ้า ถึงเป็นเครื่องมือที่ ทุกบ้านควรมี จริงๆ มันไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับงานช่างที่ซับซ้อน แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันของคุณง่ายขึ้นเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นงานซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ การประกอบเฟอร์นิเจอร์ หรือการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ มันทำได้หมด!
การมีสว่านไฟฟ้าติดบ้านไว้สักเครื่องเนี่ย มันเหมือนกับการมี ช่างประจำบ้าน อยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาโทรหาช่าง ไม่ต้องเสียเงินค่าจ้างช่างจุกจิก และที่สำคัญคือมันช่วยให้คุณสามารถ ลงมือทำอะไรได้ด้วยตัวเอง สร้างสรรค์และตกแต่งบ้านของคุณได้ตามใจปรารถนา
ลงทุนกับสว่านไฟฟ้าดีๆ สักเครื่อง ผมรับรองเลยว่า คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ แน่นอนครับพี่ มันจะช่วยประหยัดทั้งเวลา ประหยัดทั้งแรง และประหยัดทั้งเงินในกระเป๋าของคุณในระยะยาว แถมยังได้ความภูมิใจที่ได้ลงมือทำอะไรด้วยตัวเองอีกด้วย
ถ้าคุณกำลังลังเลว่าจะซื้อดีไหม หรือกำลังมองหาเครื่องมือดีๆ สักชิ้นมาติดบ้าน ผมบอกเลยว่า อย่ารอช้า! รีบไปหาสว่านเจาะไฟฟ้าดีๆ สักเครื่องมาไว้ข้างกาย แล้วคุณจะรู้ว่าชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเยอะเลยล่ะครับ! เชื่อผมเถอะครับ ช่างอย่างผมไม่เคยโกหกใคร!
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้พี่ๆ น้องๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ ถ้ามีคำถามอะไรเพิ่มเติม ถามมาได้เลยนะ ผมยินดีให้คำแนะนำเต็มที่ครับ!